บทนำ

แปลโดย : Gemini 2.5 Pro / credit : https://braiins.com/books/bitcoinization-of-finance

บทนำ

Financialization (การทำให้เป็นสินทรัพย์ทางการเงิน) – การทำให้เป็นสินทรัพย์ทางการเงินคือการที่ตลาดการเงิน สถาบันการเงิน และธุรกรรมทางการเงินมีบทบาทเด่นขึ้นเรื่อยๆ ในเศรษฐกิจของประเทศ

ในหนังสือเล่มนี้ คุณจะได้เรียนรู้ว่าอุตสาหกรรมการเงินเป็นส่วนประกอบที่สำคัญต่อการเกิดภาวะ Hyperbitcoinization (การทำให้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ทางการเงินเต็มรูปแบบ) และบิตคอยน์จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเงินอย่างไร (Bitcoinization of Finance)

มีหลายครั้งที่นักการเงินได้ผลักดันการทำให้เป็นสินทรัพย์ทางการเงินมากเกินไป โดยใช้ประโยชน์จากระบบเงินตรา (fiat system) โดยหลักเพื่อประโยชน์ของนักเก็งกำไรและผู้ที่เข้าถึงแหล่งพิมพ์เงินได้ใกล้ชิดที่สุด แน่นอนว่าผมไม่ได้หมายถึงการมองข้ามความจริงที่ว่าชีวิตสมัยใหม่ของเราได้ถูกทำให้เป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ผมไม่คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดี อย่างไรก็ตาม ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการเงินน้อยมาก แต่กลับเกี่ยวข้องกับระบบเงินตราที่ติดเชื้อการเงินต่างหาก การเงินสามารถคิดง่ายๆ ว่าเป็นธุรกิจของเงิน บิตคอยน์คือเงิน และดังนั้น ธุรกิจก็จะพัฒนาขึ้นรอบๆ ตัวมันเองตามธรรมชาติ — นั่นคือการเงิน

ประการแรกและสำคัญที่สุด เงินเป็นเทคโนโลยีและสมุดบัญชี มันได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและพื้นที่เพื่อปรับให้เข้ากับความสามารถทางเทคโนโลยีและโครงสร้างทางสังคมในยุคนั้น รูปแบบเงินที่ดีที่สุดมีข้อกำหนดดังต่อไปนี้:

• คงทน: อยู่ได้นานเมื่อเวลาผ่านไป

• พกพาได้: ง่ายต่อการขนส่ง

• ใช้แทนกันได้: เหมือนกันและสามารถแลกเปลี่ยนได้กับหน่วยอื่นๆ ที่มีมูลค่าเท่ากัน

• ตรวจสอบได้: ง่ายต่อการพิสูจน์ว่าเป็นของแท้และถูกต้อง

• แบ่งแยกได้: สามารถแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยได้

• หายาก: อุปทานมีจำกัด

• ประวัติที่ก่อตั้งขึ้น: ได้รับความไว้วางใจและใช้งานมาเป็นเวลานาน

• ทนทานต่อการเซ็นเซอร์: ไม่สามารถถูกบล็อกหรือควบคุมโดยบุคคลภายนอกได้

บิตคอยน์/ทองคำ/เงินเฟียต : คงทน B A+ C , พกพาได้ A+ D B , ใช้แทนกันได้ B A B , ตรวจสอบได้ A+ B B , แบ่งแยกได้ A+ C B , หายาก A+ A F , ประวัติที่ก่อตั้งขึ้น D A+ C , ทนทานต่อการเซ็นเซอร์ A C D

Sound money (เงินที่มีค่าคงทน) – เป็นประเภทของเงินที่ทำหน้าที่เป็นตัวรักษามูลค่าที่เชื่อถือได้เมื่อเวลาผ่านไป โดยยากที่จะลดทอนอุปทานและด้วยเหตุนี้จึงลดมูลค่าด้วยหน่วยใหม่ๆ ความแข็งแกร่งของเงินขึ้นอยู่กับว่ามันรักษามูลค่าได้ดีเพียงใด และยากเพียงใดที่จะเพิ่มอุปทานของหน่วยใหม่ๆ เทียบกับสต็อกที่มีอยู่

ในอดีต อารยธรรมมนุษย์ที่แตกต่างกันได้นำรูปแบบของเงินที่มั่นคงมาใช้ ผมเชื่อว่าสังคมเหล่านั้นรุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อเงินของพวกเขามั่นคงที่สุด สิ่งนี้มักจะสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ตลาดมีความเสรีมากที่สุดและมีการควบคุมน้อยที่สุด สังคมเจริญรุ่งเรืองโดยรวมเพราะสัญญาณตลาดชัดเจน มีวงจรป้อนกลับที่กระชับและทำงานได้ดี — นักลงทุนใช้ตลาดเพื่อจัดระเบียบเงินทุน ใช้เงินทุน และสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้น

น่าเสียดายที่ข้อบกพร่องร้ายแรงของมนุษยชาติคือเมื่ออารยธรรมที่มีเทคโนโลยีที่เหนือกว่ารวมศูนย์เงิน ข้าราชการรู้เรื่องนี้ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาทำมาโดยตลอด ทำลายอารยธรรมของเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความมั่งคั่งและอำนาจมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกระทบของการรวมศูนย์ที่ดึงดูดคนประเภทที่เลวร้ายที่สุด คนเหล่านี้ไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ ดังนั้นพวกเขาจึงแข่งขันกันใน "การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ" สถาบันและกฎระเบียบถูกออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงตลาดที่เคยเสรีให้เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มลับ แรงจูงใจบิดเบี้ยวจนกระทั่งผู้เข้าร่วมตลาดไม่สามารถทำการเดิมพันที่คำนวณได้ด้วยเงินทุนของตนเอง ภาพลวงตาที่ค่อนข้างปลอมถูกสร้างขึ้นผ่านการปั่นตลาด ไม่มีสัญญาณของวงจรป้อนกลับที่ทำงานได้ดี ดังนั้น ผู้เข้าร่วมตลาดจึงถูกบังคับให้เสี่ยงโชคกับเงินทุนของตนเอง กลไก (ตลาดเสรี การจัดระเบียบเงินทุน การจัดสรรเงินทุน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เสรีภาพ การรวมกันทางศีลธรรม และการเคารพทางสังคม) ซึ่งอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ถูกสร้างขึ้นนั้นไม่สมบูรณ์อีกต่อไป พวกมันถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงหรือถูกทำลายอย่างชัดเจน

นี่คือที่ที่เราพบว่าตัวเองอยู่ในวันนี้ ในภาวะเสื่อมโทรมทางเศรษฐกิจและศีลธรรม อย่ากลัวเลยเพื่อนๆ เรามีความหวังเพราะเรามีบิตคอยน์ บิตคอยน์คือสุดยอดสัตว์นักล่าของเงิน มันตอบสนองข้อกำหนด "เงินที่ดี" ทั้งหมดได้ดีกว่าเงินรูปแบบใดๆ ในอดีต คุณสมบัติเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในบิตคอยน์ Satoshi Nakamoto ตีพิมพ์ Whitepaper บิตคอยน์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2008 และได้สรุปโปรโตคอลโอเพ่นซอร์สที่ใช้งานได้บนอินเทอร์เน็ตและมีจำนวนจำกัดทางดิจิทัล บิตคอยน์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความปรารถนาของผู้วางแผนกลางคนใด และไม่ได้มาจากมูลค่าผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่ง อันที่จริง Satoshi Nakamoto ได้จารึกพาดหัวข่าว "Chancellor on Brink of Second Bailout for Banks" จากหนังสือพิมพ์ The Times ซึ่งเป็นการเตือนอย่างชัดเจนถึงอันตรายของผู้วางแผนกลาง

บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่เป็นกลางที่ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายโหนด ผู้ขุด และผู้เข้าร่วมเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายของบล็อกเชนได้ด้วยตนเอง โปรโตคอลบิตคอยน์ประกอบด้วยสองสิ่ง: สินทรัพย์และเครือข่าย สินทรัพย์เป็นเครื่องมือทางการเงินที่เงินฝืด ออกแบบมาเพื่อรักษามูลค่าความมั่งคั่งเนื่องจากอุปทานดิจิทัลที่มีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ เครือข่ายเป็นระบบการชำระเงินทั่วโลกแบบกระจายอำนาจที่เปิดกว้างและไร้ข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ทุกคน สินทรัพย์ขับเคลื่อนเครือข่าย เครือข่ายรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ เมื่อรวมกันแล้ว สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดสายพันธุ์บุกเบิก ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน นั่นคือเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าคงทน

บิตคอยน์ให้อำนาจแก่มนุษย์ในการใช้ของขวัญแห่งเจตจำนงเสรีส่วนบุคคล โดยเสนอทางเลือกที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง: ที่จะเลือกออกจากการเป็นระบบเงินตราที่ทุจริต และสร้างสิ่งใหม่ ด้วยการใช้เครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์ที่ดีที่สุดจากการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) เราสามารถจุดประกายตัวเร่งปฏิกิริยาในระบบนิเวศ ทำให้ตลาดทุนของบิตคอยน์ลึกซึ้งขึ้น และปลดล็อกโอกาสสำหรับทุกคน สินทรัพย์ประเภทนี้ที่กำลังเติบโตนี้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น มีคุณสมบัติสำคัญสำหรับเราที่จะหลุดพ้นจากการเติบโตที่เน่าเฟะของโลกการเงินที่บิดเบี้ยว