16 ไลท์คอยน์

แปลโดย : Claude 3 Opus (Pro)

หนึ่งในกลยุทธ์ที่มีการพูดคุยใน Dragons' Den ในช่วงนี้คือการเปิดใช้งาน SegWit บน Litecoin ซึ่งเป็นเหรียญทางเลือกที่มักถูกมองว่าเป็นญาติใกล้ชิดกับ Bitcoin สิ่งนี้จะแสดงให้นักขุดเห็นว่า SegWit ใช้งานได้จริง และพิสูจน์ว่าข้อด้อยหลายอย่างของ SegWit ที่พวก large blocker โฆษณา เช่น จุดอ่อนด้านความปลอดภัย จริงๆ แล้วเป็นเรื่องไร้สาระ ไคลเอนต์ softfork ของ SegWit ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2017 [117] ใน Litecoin เวอร์ชั่น 0.13.2.1 ต่างจาก Bitcoin ที่มีเกณฑ์การเปิดใช้งาน 95 เปอร์เซ็นต์ Litecoin มีเกณฑ์การเปิดใช้งานของนักขุดที่ 75 เปอร์เซ็นต์ Litecoin มีหน้าต่างการเปิดใช้งานแบบเลื่อนต่อเนื่องสองสัปดาห์เหมือนกัน ตามด้วยช่วงผ่อนผันอีกสองสัปดาห์ โน้ตการปล่อยส่วนใหญ่ของไคลเอนต์นี้เขียนโดยนักพัฒนา Bitcoin นามแฝงที่ชื่อ "Shaolinfry" และโค้ดส่วนใหญ่ของ SegWit ก็ผลิตโดยนักพัฒนา Bitcoin Shaolinfry น่าจะเป็นสมาชิกของ Dragons' Den แต่แม้กระทั่งใน Den ตัวตนที่แท้จริงของบุคคลนี้ก็ไม่เป็นที่รู้แน่ชัด Charlie Lee เป็นผู้ก่อตั้ง Litecoin และดูเหมือนเขาจะถือว่าตัวเองเป็น small blocker ในขณะเดียวกัน ชุมชน Litecoin ก็ดูเหมือนจะสนับสนุนการเปิดใช้งาน SegWit อย่างกระตือรือร้น เพราะนี่เป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ก่อน Bitcoin ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีมาก

การสนับสนุน SegWit ในหมู่นักขุด Litecoin ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังต่ำ และยังไม่แน่ใจว่าการเปิดใช้งานจะเกิดขึ้นหรือไม่ ราววันที่ 9 เมษายน 2017 มีแคมเปญสำหรับ user-activated softfork (UASF) บน Litecoin เพื่อบังคับการเปิดใช้งาน SegWit [118] แรงผลักดันของแคมเปญคือความหงุดหงิดของผู้ใช้กับความคืบหน้าที่ขาดหายไปจากนักขุด ความคิดที่นี่คือ แทนที่จะมีเกณฑ์การเปิดใช้งานของนักขุด ผู้ใช้สามารถรันไคลเอนต์ที่จะเปิดใช้งานกฎใหม่ในอนาคตที่จุดหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงสถานะการส่งสัญญาณของนักขุด ในตอนนี้ แคมเปญหลัก ๆ เกี่ยวข้องกับการที่ผู้ใช้เพิ่มแฟล็ก "UASF-Segwit-BIP148" ไปยัง user agent ของไคลเอนต์ Litecoin ของพวกเขา เพื่อให้ข้อความนี้ปรากฏในเครือข่าย มันไม่ได้เปิดใช้งานอะไรทั้งนั้น แต่แค่ระบุถึงความตั้งใจของผู้ใช้เท่านั้น

Bitcoin เคยใช้วิธีการเปิดใช้งานแบบนี้มาก่อน ในยุคของ Satoshi อย่างไรก็ตาม Bitcoin เปลี่ยนมาใช้การส่งสัญญาณของนักขุดเพื่อลดโอกาสการแยกเชนหรือปัญหาในการเปิดใช้งาน ดูเหมือนสำหรับผมว่า ขณะที่การใช้วิธีการเปิดใช้งานแบบนี้ใน Bitcoin อาจมีความเสี่ยง โดยเฉพาะสำหรับการอัปเกรดที่มีข้อถกเถียงอย่าง SegWit แต่ใน Litecoin สิ่งนี้อาจทำได้ค่อนข้างง่าย การสนับสนุน SegWit ในหมู่ผู้ใช้นั้นเกือบจะล้นหลาม และ Litecoin ยังมีผู้ก่อตั้งที่ยังคงทำงานอยู่ในพื้นที่และสนับสนุนการอัปเกรดอีกด้วย UASF ดูเหมือนจะได้ผล นักขุดได้รับข้อความและการส่งสัญญาณสนับสนุน SegWit บน Litecoin เริ่มเพิ่มขึ้น การเปิดใช้งานตอนนี้ดูจะใกล้เข้ามาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ราววันที่ 17 เมษายน 2017 hashrate ของ Litecoin พุ่งสูงขึ้น [119] hashrate ใหม่นี้ไม่ได้ส่งสัญญาณสนับสนุน SegWit และดูเหมือนจะปิดกั้นการเปิดใช้งานอยู่ สิ่งนี้ดูเหมือนเป็นกลยุทธ์ที่ตั้งใจจากนักขุดเป็นอย่างมาก Hashrate มาจากกลุ่มขุด LTC1BTC และ LTC.TOP ที่ควบคุมโดย Jiang Zhuoer ซึ่งถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นตัวแทนของ Jihan Wu ในวันที่ 19 เมษายน 2017 Jiang Zhuoer ได้เขียนบล็อกโพสต์อธิบายจุดยืนของเขา:

แม้ว่าผมจะมีข้อสงวนเกี่ยวกับ Segwit (ผมเป็น Litecoin HODLER) แต่ถ้ามันเป็นเส้นทางที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดที่จะก้าวไปข้างหน้า ผมก็ไม่ได้ต่อต้าน แต่ผมต่อต้านอย่างแข็งขันต่อกลวิธีที่ผู้สนับสนุน Segwit กำลังใช้อยู่ นั่นคือ UASF (DASF) และ proof-of-DDoS เพื่อผลักดันให้มันเปิดใช้งาน ถ้าผู้สนับสนุนกลวิธีเหล่านี้ถูกรับรองโดยการเห็นว่ามันสำเร็จบน Litecoin ทั้ง Bitcoin และ Litecoin จะกลายเป็นระบบที่อ่อนแอ เสี่ยงต่อการถูกควบคุมโดยอาชญากร เพราะเหตุนี้ ผมจึงเพิ่ม hashrate ให้กับกลุ่มของผมเพียงพอเพื่อรับประกันสิ่งต่อไปนี้:

รับรองว่า Segwit จะไม่เปิดใช้งานโดย proof-of-DDoS ว่าชุมชน Litecoin จะรอจนกว่า Charlie Lee จะมาเยือนจีนเพื่อตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยกัน [120]

ตอนนี้ดูเหมือนว่าสงครามการ scaling ของ Bitcoin ได้ย้ายไปยัง Litecoin โดยมีข้อโต้แย้งที่เกือบจะเป็นสำเนาคาร์บอน ในช่วงนี้ ผมได้คุยกับ Jiang Zhuoer โดยตรง เขาอธิบายกับผมว่าเขาไม่ต้องการ SegWit ใน Litecoin โดยที่ Litecoin ไม่ได้มีการเพิ่มขนาด block ผ่าน hardfork ด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่สมเหตุสมผล เพราะต่างจาก Bitcoin Litecoin ไม่ได้มีปัญหา block เต็มเลย Jiang อธิบายกับผมว่ามันเป็นเรื่องหลักการของสถานการณ์: นักพัฒนา Litecoin ต้อง "ทำให้ชัดเจนว่าพวกเขาจะทำ hardfork เมื่อ block เต็ม" มิฉะนั้นนี่จะเป็นเส้นทางที่ผิด จากนั้นเขาอธิบายกับผมว่าการเปิดใช้งาน SegWit บน Litecoin เป็น "การเล่นของ Bitcoin Core" เขากังวลว่าถ้า SegWit เปิดใช้งานบน Litecoin มันอาจเปิดใช้งานบน Bitcoin ด้วย และเขาโกรธเป็นพิเศษกับ UASF ที่ถูกเสนอ และสิ่งนี้อาจถูกพยายามทำบน Bitcoin ด้วย ในความเห็นของ Jiang UASF "ขัดแย้งกับผลประโยชน์ของนักขุด" และเป็น "การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อนักขุด" จากการสนทนานี้ ชัดเจนว่า Jiang และนักขุดบางคนกังวลอย่างมากและเกือบจะกลัวความเป็นไปได้ของ UASF ซึ่งจะขจัดความคิดที่ว่านักขุดมีอำนาจควบคุมโปรโตคอลในระดับหนึ่ง

แน่นอนว่าสิ่งที่ Jiang พูดมีความจริงอยู่ระดับหนึ่ง ผมรู้จากการสนทนาใน Den ว่าพวก small blocker ตั้งใจจะใช้การเปิดใช้งาน SegWit บน Litecoin เพื่อช่วยให้มันเปิดใช้งานบน Bitcoin แน่นอน พวก large blocker ตรวจจับสิ่งนี้ได้และตอนนี้ต้องเปลี่ยนความพยายามไปหยุดยั้ง SegWit บน Litecoin ในทางกลับกัน มันก็ชัดเจนว่าชุมชน Litecoin ที่แท้จริงสนับสนุนการอัปเกรดอย่างแข็งขัน ดังนั้นการกระทำของพวก large blocker ในที่นี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก

ในวันที่ 21 เมษายน 2017 ในการกระทำที่ชัดเจนว่าเลียนแบบ Bitcoin การประชุมโต๊ะกลมของ Litecoin กับนักขุดส่วนใหญ่ได้จัดขึ้นในประเทศจีน และมีการเผยแพร่ข้อตกลง:

เราสนับสนุนว่าการตัดสินใจอัปเกรดโปรโตคอล Litecoin ควรทำตามความต้องการของผู้ใช้ ผ่านกระบวนการลงคะแนนในการประชุมโต๊ะกลม และเปิดใช้งานโดยการลงคะแนนของนักขุด

...

เราไม่สนับสนุน "UASF" ประเภท flag-day ที่ไม่ผ่านกระบวนการลงคะแนนของผู้ใช้หรือชุมชน การบังคับอัปเกรดแบบนี้โดยไม่มีฉันทามติของชุมชน ทำให้ Litecoin เสี่ยงที่จะแตกแยก

...

ผ่านกระบวนการลงคะแนน สมาชิกที่เข้าร่วมเห็นพ้องต้องกันเป็นเอกฉันท์ต่อแผนต่อไปนี้เกี่ยวกับการอัปเกรดโปรโตคอล Litecoin: ใช้ Segregated Witness softfork บน Litecoin เมื่อการใช้งาน block capacity ของ Litecoin เกิน 50% เราจะเริ่มเตรียมโซลูชันเพื่อเพิ่มขีดจำกัดขนาด block 1MB ผ่าน hardfork หรือ softfork สุดท้ายนี้ เราอยากเน้นย้ำว่าการประชุมโต๊ะกลมนี้เป็นเพียงฉันทามติของสมาชิกที่เข้าร่วมเท่านั้น และไม่สามารถตัดสินใจในนามของชุมชน Litecoin ได้ [121]

ข้อตกลงนี้มุ่งมั่นที่จะเปิดใช้งาน SegWit แต่ก็ตกลงที่จะเริ่มเตรียมการเพิ่มขีดจำกัดขนาด block อีกครั้ง เมื่อ block เต็มถึง 50% สิ่งนี้รู้สึกเหมือนเป็นการรักษาหน้าของนักขุด พวกเขาจะเปิดใช้งาน SegWit แต่ก็ได้สัญญาคลุมเครือสำหรับ hardfork ที่อาจเกิดขึ้น ในความเป็นจริง นักขุดอาจถูกบังคับให้เปิดใช้งาน SegWit เนื่องจากภัยคุกคามของ UASF ซึ่งในกรณีของ Litecoin นั้นเป็นจริงมาก ข้อตกลงฮ่องกงของ Bitcoin ยังคงมีความสำคัญต่อ Jihan และนี่เป็นวิธีบอกว่าพวกเขายังต้องการอะไรคล้ายๆ กันใน Bitcoin ทั้ง SegWit และการเพิ่มขีดจำกัดขนาด block ผ่าน hardfork แน่นอนว่าใน Bitcoin นั้น block เต็มไปกว่า 50% แล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำ hardfork ตอนนี้

ข้อตกลงยังมีข้อขัดแย้งที่ชัดเจนหลายประการ มันเริ่มด้วยการบอกว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับโปรโตคอลควรทำโดยการประชุมโต๊ะกลม แต่ข้อความเดียวกันต่อมากลับกล่าวว่ากระบวนการประชุมไม่สามารถตัดสินใจได้และชุมชน Litecoin เป็นผู้ควบคุม สิ่งนี้ดูเหมือนจะบ่งชี้ว่าไม่ใช่ทุกคนในที่ประชุมมีมุมมองเดียวกันเรื่องการกำกับดูแล และประโยคที่ขัดแย้งกันถูกใส่เข้าไปเพื่อปลอบใจทั้งสองฝ่าย มันยังบ่งชี้ถึงความรู้สึกที่แข็งกร้าวของ Jihan และนักขุดบางคนว่านักขุดเป็นผู้ควบคุมกฎโปรโตคอล จากการพูดคุยกับทั้ง Jihan และ Jiang ในช่วงนี้ ผมรู้สึกว่าพวกเขาค่อยๆ ตระหนักว่านักขุดไม่ได้มีอำนาจอย่างที่เคยคิด สิ่งนี้ทำให้พวกเขาหงุดหงิดมากและพวกเขาพยายามยึดติดกับแนวคิดนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

ด้วยการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ Litecoin จึงเปิดใช้งาน SegWit ในเดือนพฤษภาคม 2017 จากนั้นราคา Litecoin ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว: ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความตื่นเต้นเกี่ยวกับ SegWit บางส่วนเป็นเพราะกลยุทธ์ของพวก small blocker ในการซื้อ Litecoin เพื่อผลักดันราคาและสร้างเรื่องราวเชิงบวกเกี่ยวกับ SegWit แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะมีเงินทุนไหลเข้าสู่พื้นที่มากขึ้นเมื่อฟองสบู่สกุลเงินดิจิทัลปี 2017 เริ่มขึ้น บาง Dragons เริ่มแพร่เรื่องราวเชิงบวกเกี่ยวกับ SegWit: ว่าราคา Litecoin เพิ่มขึ้นและการทำนายหายนะที่ไม่น่าเชื่อถือจากพวก large blocker เป็นเรื่องไร้สาระ

นี่ชัดเจนว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของปี 2017 สำหรับพวก small blocker พวกเขาประสบความสำเร็จ 3 ครั้งติดต่อกัน: เว็บเทรด, ASICBoost และตอนนี้คือ Litecoin ในช่วงฤดูร้อนปี 2017 คะแนนสำหรับปีนี้คือ small blocker 3 large blocker 0 สงครามนี้เกี่ยวกับแรงผลักดันและการรับรู้ถึงแรงผลักดัน คนส่วนใหญ่แค่อยากตามเสียงส่วนใหญ่และสนับสนุนผู้ชนะ ผลกระทบสะสมของชัยชนะเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ พวก small blocker กำลังอยู่ในจุดสูงสุด