เงินคือเรื่องราว

แปลโดย : Claude 3 Opus (Pro)

"เมื่อสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้รับการยอมรับโดยทั่วไปในสังคม มันจะถูกเรียกว่า "เงิน" สินค้าอย่างทองคำหรือเงินจะกลายเป็นเงินได้อย่างไร? สิ่งนี้เกิดขึ้นผ่านกระบวนการทีละขั้นตอน ซึ่งในระหว่างนั้นผู้เข้าร่วมตลาดจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนตัดสินใจด้วยตนเองที่จะใช้ทองคำและเงินแทนสินค้าอื่นๆ ในการแลกเปลี่ยนทางอ้อมของพวกเขา ดังนั้น การเลือกทองคำ เงิน และทองแดงในประวัติศาสตร์จึงไม่ได้เกิดขึ้นผ่านข้อตกลงหรือข้อกำหนดทางสังคมแต่อย่างใด แต่เป็นผลมาจากการลู่เข้าหากันโดยธรรมชาติของตัวเลือกของแต่ละบุคคลจำนวนมาก ซึ่งการลู่เข้าหากันนี้เกิดขึ้นเนื่องจากคุณสมบัติทางกายภาพที่เป็นรูปธรรมของโลหะมีค่า"

—Jörg Guido Hülsmann, The Ethics of Money Production

มีวรรณกรรมมากมายเกี่ยวกับคำถาม "เงินคืออะไร?" เราขอนำเสนอเวอร์ชั่นที่ง่ายขึ้นเพื่อแสดงถึงสิ่งสำคัญในบทนี้ คำอธิบายของเราไม่ได้ละเอียดถี่ถ้วนหรือลึกซึ้งอย่างครบถ้วน แต่มันถูกต้องเพียงพอภายในขอบเขตที่เรากล่าวถึง เราจะกล่าวถึงคำถามนี้อย่างละเอียดมากขึ้นในบทที่สี่ Wittgenstein's Money พร้อมนัยยะในบทต่อๆ ไป

เงินคือเรื่องราว มันเป็นเรื่องราวของงานที่ได้ทำไปแล้วซึ่งยังไม่ได้ถูกไถ่ถอน มันเป็นจุดศูนย์รวม Schelling สำหรับเครดิตสากล มันคือใบสัญญาว่าทุกคนยินดีที่จะไถ่ถอน (โดยหลักแล้วเพราะทุกคนยินดีที่จะไถ่ถอนมัน) และด้วยเหตุนี้ ในแต่ละครั้งที่มีการโอน มันจะถูกให้ค่าใหม่พร้อมกับการอ้างอิงมูลค่าทางเศรษฐกิจกับงานที่ได้ทำขึ้นจริง โปรดสังเกตว่าเงินไม่ใช่สิ่งที่ประกอบสร้างทางสังคม ไม่ใช่ภาพลวงตาร่วมกัน หรือสิ่งอื่นใดที่ดูถูกแบบนี้ ซึ่งบ่งบอกอย่างเจ้ามารร้ายว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเงินที่สำคัญจริงๆ และเราสามารถประดิษฐ์มันขึ้นมาใหม่ทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ถ้าเราต้องการ เงินอาจเป็นเรื่องราว แต่คุณภาพของเรื่องราวก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ยิ่งเรื่องราวเป็นจริงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น

คำว่า "จริง" ควรหมายถึงกระบวนการโอนเงินที่มี และเชื่อว่ามีมาเสมอ ลักษณะของการต้านการถูกเซ็นเซอร์และการรับประกันความสมบูรณ์ เราสามารถคิดเรื่องนี้ในแง่ของการเข้ารหัส เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันในการรับประกันความปลอดภัยและความถูกต้องของการสื่อสารเครือข่าย การโอนเงินคือการส่งข้อความผ่านเครือข่ายการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ มัน "ต้านการถูกเซ็นเซอร์" หากอลิซรู้ว่าข้อความของเธอมีไปถึงบ็อบและเฉพาะบ็อบเท่านั้น มันไม่ได้ถูกเบี่ยงเบนไปหาชาร์ลีย์ หรือถูกทำลาย มัน "รับประกันความสมบูรณ์" หากบ็อบรู้ว่าข้อความมาจากอลิซและเฉพาะอลิซเท่านั้น มันไม่ได้มาจากชาร์ลีย์ ไม่ได้ถูกส่งไปหาโดโรธีด้วย และไม่ได้มาจากใครเลยจริงๆ

เมื่อเงินถูกพิมพ์ออกมา ไม่ว่าจะเป็นธนบัตรหรือบรรทัดในฐานข้อมูล สิ่งนี้เป็นการละเมิดการรับประกันความสมบูรณ์ มันเทียบเท่ากับผู้พิมพ์ที่ให้สินเชื่อกับตัวเอง บนพื้นฐานของสมาชิกทุกคนที่ไม่ยินยอมและไม่รู้เรื่องเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีงานใดที่ทำขึ้นซึ่งใครๆ ก็ยินดีที่จะไถ่ถอน ไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ถูกสร้างขึ้น หรือทำสัญญาว่าจะสร้างขึ้น เพื่อให้ตรงกับโทเค็นที่อยู่ในการหมุนเวียนตอนนี้ บ็อบไม่รู้ว่าข้อความของการโอนมูลค่าของเขามาจากอลิซและเฉพาะอลิซเท่านั้น มันไม่ได้มาจากใครเลย ผู้ออกได้ดำเนินการโจมตีแบบ man-in-the-middle ต่อโครงสร้างการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ

และโปรดสังเกตว่านี่ไม่ใช่การพูดแบบคนแก่ที่ตะโกนใส่เมฆต่อต้านการสร้างเงินโดยทั่วไป ซึ่งเรายืนยันว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดต้องดำเนินการด้วยทองคำ เงินที่สร้างขึ้นจากการขยายสินเชื่อสามารถถูกต้องตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ หากความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงอายุครบกำหนดถูกกำหนดราคาอย่างอิสระโดยดอกเบี้ย รับภาระโดยผู้ถือหุ้นของสถาบันการให้กู้ยืม ลดความเสี่ยงด้วยหลักประกันที่พวกเขาเข้าใจ และยอมรับในการแลกเปลี่ยนโดยผู้มีบทบาททางเศรษฐกิจที่เต็มใจ47 แต่มันไม่ใช่ หากความเสี่ยงถูกตั้งราคาตามความสะดวกทางการเมือง ไม่มีใครรับภาระ มีหลักประกันโดยทุกคน และถูกบังคับให้ใช้และใช้ซ้ำอย่างต่อเนื่องด้วยการคุกคามจากความรุนแรงของรัฐ

นอกจากนี้ การที่ผู้ให้กู้รู้และยินยอมกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเงินฝากของพวกเขา แทนที่จะทนทุกข์ทรมานจากภาพลวงตาร่วมกันที่ว่าเงินของพวกเขา "อยู่ในธนาคาร" ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร สังเกตด้วยว่านี่ไม่ใช่ข้ออ้างทางศีลธรรม: การละเมิดการรับประกันความสมบูรณ์อาจเป็นสิ่งผิดศีลธรรมในระดับที่ผู้อ่านคิดว่าการโกหกเป็นสิ่งผิดศีลธรรม แต่เราใช้คำนี้ในแง่เศรษฐกิจล้วนๆ สัญญาณข้อมูลที่เงินควรแสดงนั้นเป็นการหลอกลวง มันคือการแทรกแซงความจริงทางเศรษฐกิจและสังคม

เราจะกลับมาพูดถึงนัยยะของการเพิกเฉยต่อความสำคัญของการรับประกันความสมบูรณ์ด้านล่าง ตอนนี้ ระลึกไว้ในใจขณะที่เราดำเนินต่อไปว่าเงินคือเครดิตสากล และอุปทานและมูลค่าของมันในตลาดเสรีเป็นสะท้อนถึงความเป็นจริงว่ามีงานที่มีคุณค่าทำไปแล้วมากเพียงใดและยังไม่ได้ถูกไถ่ถอน ดังที่ Oliver Wendell Holmes กล่าวไว้ "เราต้องคิดถึงสิ่งต่างๆ ไม่ใช่คำพูด หรืออย่างน้อยเราต้องแปลคำพูดของเราให้เป็นข้อเท็จจริงที่คำพูดเหล่านั้นแทนอยู่ตลอดเวลา หากเราจะรักษาสิ่งที่จริงและเป็นจริงไว้"

น่าจะมีแรงจูงใจทางการเมืองที่ตรงไปตรงมาของความปรารถนาอำนาจที่จะลดทอนการต้านการถูกเซ็นเซอร์หรือการรับประกันความสมบูรณ์ของเงินอยู่เสมอ แต่จะมีผลที่ตามมา ผู้คนจะเชื่อเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริงอย่างง่ายดาย และจะทำเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องจริง