สิ่งที่จะเกิดขึ้นในสังคมทุนนิยมที่มีสุขภาพดีทางเศรษฐกิจ

แปลโดย : Claude 3 Opus (Pro)

"ความหมกมุ่นสมัยใหม่ที่มีต่อการเติบโต และการใช้เลเวอเรจเพื่อบรรลุการเติบโตนั้น ในทางปรัชญาแล้วขัดแย้งอย่างพื้นฐานกับแนวคิดของการสร้างสังคมที่สมดุลกลมกลืน เพราะนำไปสู่วงจรซ้ำๆ ของความบ้าคลั่งที่เกิดจากหนี้ เหมือนพ่อที่ทนทุกข์มายาวนานเพื่อช่วยจ่ายหนี้การพนันของลูกชาย รัฐบาลเริ่มคุ้นเคยกับการยอมรับความเสี่ยงทางศีลธรรมโดยการอุดหนุนการรับความเสี่ยงของสถาบันการเงิน"

—Harris Irfan, Heaven's Bankers

หลายสิ่งจะเกิดขึ้นในสังคมทุนนิยมที่มีสุขภาพดีทางเศรษฐกิจ เราจะพูดถึงบางสิ่งอย่างรวดเร็วพอสมควร เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นสามัญสำนึกและเกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการอภิปรายก่อนหน้านี้

คุณจะสามารถรักษาความมั่งคั่งไว้ในรูปของเงินได้ เงินคือมูลค่าที่เก็บไว้และได้รับการยอมรับจากการทำงานในอดีต ซึ่งสามารถแลกเป็นสินค้าและบริการในปัจจุบันหรืออนาคตได้ มูลค่าของเงินไม่ควรลดลงอย่างต่อเนื่อง มีข้อพิจารณาเกี่ยวกับเงื่อนไขของการให้สินเชื่อและการใช้เลเวอเรจในระบบ ซึ่งทำให้ปัญหาซับซ้อนมากขึ้นในช่วงเวลาที่สั้นลง ซึ่งเราต้องการหลีกเลี่ยงในตอนนี้และจะกลับมาพูดถึงในบทที่ 5 เรื่อง The Capital Strip Mine แต่ในภาพรวมแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปนานพอ คุณจะคาดหวังว่าอำนาจซื้อของเงินจะเพิ่มขึ้นอย่างคร่าวๆ สอดคล้องกับผลตอบแทนรวมจากการนำทุนกลับไปลงทุนใหม่ เพราะการทำงานในอดีตเดียวกัน ตอนนี้มีสินค้าและบริการปริมาณมากขึ้นให้เข้าถึง

นี่หมายความว่าคุณจะปล่อยกู้เงินทุนให้กับกิจการที่มีความเสี่ยงเฉพาะเมื่อคุณต้องการ ไม่ใช่เพราะคุณจำเป็นต้องทำเพื่อหวังจะรักษามูลค่าความมั่งคั่ง นี่หมายความต่อไปว่าราคาทุนจะถูกกำหนดเพื่อสะท้อนความชอบในการออมและการบริโภคของสังคมอย่างแม่นยำ และโครงการลงทุนต่างๆ จะถูกประสานให้สอดคล้องกัน

รัฐบาลจะมีเงินส่วนเกิน กู้ยืมในตลาดเปิดที่กำหนดราคาความเสี่ยงอย่างอิสระ หรือจะยอมรับว่าพวกเขาสามารถเก็บภาษีฉุกเฉินได้ การพิมพ์เงินเป็นภาษีแอบแฝงที่เรียกเก็บจากความมั่งคั่ง ซึ่งทำให้ไม่อยากถือเงิน ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น มันมีผลลำดับแรกเหมือนกันต่อการถ่ายโอนความมั่งคั่ง แต่มีผลลำดับที่สองที่ซ่อนอยู่คือการชักนำทุนไปในทางที่ผิดเนื่องจากความสะดวกและความขลาดทางการเมือง

ที่เกี่ยวข้องกันคือ รัฐบาลจะ (หรือควรจะ) ได้รับแรงจูงใจให้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์สาธารณะเสมอ พวกเขาไม่ควรถูกผูกมัดกับการปั่นราคาในตลาดการเงินให้พุ่งสูงขึ้นไม่ว่าจะแลกกับอะไร พวกเขาไม่ควรถูก "ซื้อ" โดยวอลล์สตรีท หรือมีกฎหมายธนาคารที่เขียนโดยนายธนาคาร และข้อบังคับด้านความปลอดภัยของสายการบินที่เขียนโดยสายการบินที่ไม่ปลอดภัย

การตัดสินใจลงทุนสามารถรวมการพิจารณาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่กว้างขึ้นได้อย่างชอบธรรม โดยไม่เสี่ยงต่อความรับผิดชอบในฐานะผู้ดูแลผลประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อปลอบใจฝูงชนบน Twitter ที่ตื่นตัวทางการเมืองในด้านหนึ่ง ในขณะที่วิ่งเต้นเพื่อรักษาการเข้าถึงแรงงานทาสในอีกด้านหนึ่ง แต่ด้วยความห่วงใยอย่างแท้จริงต่อชุมชนและการรักษาโลกธรรมชาติ หากคุณถูกจูงใจให้เพิ่มผลกำไรระยะสั้นตลอดเวลา คุณจะพิจารณาไล่ทุกคนออกและย้ายฐานการผลิตไปจีน แต่หากคุณถูกจูงใจให้เพิ่มผลตอบแทนในระยะยาว คุณสามารถเพิ่มการลงทุนกับแรงงานที่มีอยู่เดิมและรับมือกับต้นทุนของปัจจัยการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในกรณีหลัง ชัดเจนว่าเป็นผลดีต่อสังคมในวงกว้างกว่า แต่ก็ยังคงมีแรงจูงใจและมีเหตุผลเพียงพอเนื่องจากผลกระทบจะรุนแรงที่สุดในชุมชนท้องถิ่นที่เป็นฐานแรงงานนั่นเอง

ส่วนบุคคลและธุรกิจจะซื้อประกันมากขึ้น การรักษามูลค่าความมั่งคั่งจะสำคัญกว่าความจำเป็นที่ต้องเร่งเติบโตให้ทันเงินเฟ้อ ดังนั้นความรอบคอบในการประกันภัยต่อภัยพิบัติ "ภายนอก" ต่างๆ จะได้รับแรงจูงใจ หรือที่ถูกคือมันมีความสมเหตุสมผลอยู่แล้วตั้งแต่แรก จึงไม่ถูกลดแรงจูงใจ

จะไม่มีการช่วยเหลือทางการเงิน จะไม่มีอะไรที่ "สำคัญต่อระบบ" เพราะภัยพิบัติ แม้กระทั่งที่มาจาก "ภายนอก" จะได้รับการประกันภัยอย่างเพียงพอ เมื่อธุรกิจล้มเหลว ผู้ที่ (เต็มใจ) ลงทุนในส่วนของเจ้าของจะถูกล้างบัญชี ผู้ที่ (เต็มใจ) ปล่อยกู้จะไม่ได้คืนเต็มจำนวน และหนี้สินส่วนที่เหลือจะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย รัฐบาลสามารถมีบทบาทที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในการปกป้องผู้บริโภคในกรณีดังกล่าว เนื่องจาก (1) รัฐมีเงินพอ และ (2) ไม่มีแรงจูงใจแข่งขันที่จะเข้าข้างภาคธุรกิจ หรือแรงจูงใจทางศีลธรรมที่จะเข้าข้างทั้งสองฝ่าย พร้อมกับส่งเสริมความประมาทเลินเล่อ

ผู้บริหารบริษัทจะได้รับแรงจูงใจจากตัวชี้วัดการเติบโตของมูลค่าที่แท้จริงในระยะยาว ไม่ใช่ตัวชี้วัดการเพิ่มขึ้นของมูลค่าต่อหุ้นในระยะสั้น ขอให้ชัดเจนว่า การซื้อคืนหุ้นในทฤษฎีแล้วเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการกำหนดราคาเงินทุนให้ถูกต้อง เราไม่ได้โต้แย้งการซื้อคืนหุ้นโดยทั่วไป แต่เรายอมรับว่าในทางปฏิบัตินั้น การซื้อคืนหุ้นมักถูกใช้เป็นหนทางเพื่อส่งเสริมตัวชี้วัดหลังมากกว่าตัวชี้วัดแรก เราโต้แย้งด้านล่างว่าพฤติกรรมนี้เป็นความผิดปกติทั้งหมดของระบอบการเมืองเศรษฐกิจที่ครอบงำ ซึ่งหนังสือเล่มนี้กำลังวิพากษ์วิจารณ์